ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนเข้ารับการปลูกผมต้องทำอย่างไรบ้าง ?

การเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับการปลูกผม นับว่าเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการปลูกมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ขั้นตอนของการเตรียมตัวก่อนปลูกผมที่เราแนะนำมีดังต่อไปนี้

ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนเข้ารับการปลูกผม

  1. เช็คสุขภาพของตนเอง
    หากคุณเป็นคนที่มีโรคประจำตัวควรเตรียมประวัติทางการแพทย์ของตนเองอย่างละเอียดมา เช่น ตัวยาที่คุณรับประทานทุกวันหรือที่เพิ่งรับประทานไป การแพ้อาหารและยา และประวัติการรักษาต่างๆ
  2. หลีกเลี่ยงแสงแดดและมลภาวะต่างๆ
    เพื่อป้องกันหนังศีรษะของคุณจากการถูกแดดเผาและสิ่งสกปรกต่างที่อาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อระหว่างผ่าตัดได้
  3. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
    หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่เป็นเวลา 3 วันและหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 7 วันก่อนการผ่าตัด เนื่องจากอาจทำให้กระบวนการรักษาหายนานขึ้นและทำให้เกิดการติดเชื้อได้
  4. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริมและวิตามินรวม
    อาหารเสริมบางชนิดอาจรบกวนการใช้ยารักษาผม ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ทานอาหารเสริมและวิตามินรวมอย่างน้อยสองสัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัดปลูกผม
  5. ไม่ควรตัดผม
    เพื่อให้แน่ใจว่าเส้นผมมีเพียงพอสำหรับใช้ในการผ่าตัด อีกทั้งการไว้ผมยาวยังสามารถปกปิดรอยแผลเป็นหรือรอยเย็บหลังผ่าตัดได้ และควรงดใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมทุกชนิดก่อนเข้ารับการปลูกผม
  6. ปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการผ่าตัด
    หลังผ่าตัดศัลยแพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลหนังศีรษะ วิธีจัดการกับอาการข้างเคียง และเวลาที่คุณจะสามารถกลับมาทำกิจกรรมตามปกติได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพนั่นเอง

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ


DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่

Tel : 02 619 0351

การปลูกคิ้วต้องใช้กี่กราฟ ?

จำนวนกราฟสำหรับใช้ในการปลูกคิ้วมีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พื้นที่สำหรับการปลูก ขนาด และรูปทรงของคิ้ว ซึ้งจำนวนกราฟที่ต้องใช้ในการปลูก ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของคิ้วที่มีอยู่เดิมรวมไปถึงความหนาและรูปทรงของคิ้วใหม่ที่ต้องการ

แต่โดยเฉลี่ยแล้วการปลูกคิ้วต้องใช้กราฟโดยประมาณ 150 – 300 กราฟสำหรับการปลูกคิ้วในแต่ละข้าง เพื่อให้ได้คิ้วที่สมบูรณ์และดูเป็นธรรมชาติแต่วิธีที่ดีที่สุด

สิ่งที่สำคัญที่สุดในส่วนของการกำหนดจำนวนกราฟคือการปรึกษากับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินความต้องการเฉพาะเจาะจงในเรื่องของ ขนาดและรูปทรงของคิ้วที่เหมาะสมกับใบหน้า เพื่อช่วยให้คนไข้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดตามมที่ต้องการ

สนใจปรึกษาทีมแพทย์สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ


DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)
.
โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่
Tel : 02 619 0351

สามารถตัดผมหลังการปลูกผมได้เมื่อไหร่ ?

เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า… หลังจากที่เราเข้ารับการปลูกผมแล้ว ต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่จึงจะสามารถตัดผมหรือจัดแต่งทรงผมตามที่เราต้องการได้ เพราะคนไข้หลายคนอาจคิดว่าจะไม่สามารถตัดผมได้อีกหลังจากเข้ารับการปลูกผมหรืออาจจะต้องใช้เวลานานมากจึงจะตัดผมได้

หลังเข้ารับการผ่าตัดปลูกผมเสร็จแล้ว อาจสังเกตเห็นรอยแดงบริเวณพื้นที่ปลูกในช่วง 2-3 วันแรก ซึ่งเป็นเรื่องปกติในการรักษา บางคนอาจหายได้เร็วกว่านั้นขึ้นอยู่แต่ละบุคคล เมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 หรือระยะเทโลเจน คือระยะที่ผมที่ทำการปลูกไว้จะหลุดร่วงลงไป ซึ่งเป็นเรื่องปกติของขั้นตอนการรักษา

เพราะฉะนั้น การที่คุณจะเริ่มตัดผมได้ครั้งแรกหลังการปลูกผม สามารถเริ่มตัดได้ตั้งแต่หนึ่งเดือนแรกหลังการปลูกผม

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ


DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)
.
โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่
Tel : 02 619 0351

ทำความรู้จัก “อาการผมร่วงหลังคลอด” ที่คุณแม่มือใหม่ควรรู้

สำหรับอาการผมร่วงหลังคลอด เป็นอาการหลุดร่วงของเส้นผมจำนวนมากจกผิดปกติ หลังจากคลอดลูกไม่กี่เดือน ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์และหลังการตั้งครรภ์ โดยฮอร์โมนการตั้งครรภ์นี้ทำให้เส้นผมจำนวนมากที่อยู่ในระยะการเจริญเติบโต (anagen) เข้าสู่ระยะของการพักอย่างกะทันหัน (telogen) ซึ่งทำให้หลังจากไม่กี่เดือนต่อมาก็จะเริ่มมีอาการผมหลุดร่วงเป็นจำนวนมากให้สังเกตุเห็น แต่โดยปกติแล้วคนเรามีเส้นผมบนหนังศีรษะประมาณ 80,000 – 120,000 เส้น และหลุดร่วงมากถึง 100 เส้นต่อวัน แต่ในภาวะผมร่วงหลังคลอด คุณแม่ที่มีอาการผมร่วงนี้จะสูญเสียเส้นผมมากกว่า 100 เส้นต่อวันนั่นเอง

อาการผมร่วงหลังคลอดนี้เป็นอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราวหรือถาวร ?

ถึงแม้ว่าผมร่วงอาจเป็นปัญหาที่น่ากังวลใจสำหรับคุณแม่มือใหม่ทั้งหลาย แต่อาการผมร่วงหลังคลอดเป็นเพียงอาการชั่วคราวเท่านั้น การหลุดร่วงอาจเกิดเพียงไม่กี่เดือนหรือน้อยกว่าหกเดือน หลังจากนั้นเส้นผมก็จะกลับมาขึ้นตามปกติเหมือนเดิม คุณแม่มือใหม่คนไหนที่กำลังเจอกับปัญหานี้อยู่สามารถหมดห่วงไปได้เลย

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ


DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)
.
โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่
Tel : 02 619 0351

การปลูกถ่ายเส้นผมกับคนในครอบครัวเป็นไปได้หรือไม่ ?

เป็นอีกหนึ่งคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ การนำเส้นผมของผู้อื่นสามารถนำมาใช้ในการปลูกผมได้ไหม ซึ่งอาจจะมีหลายสาเหตุที่คนไข้หลายคนเกิดข้อสงสัยอย่างเช่น ในกรณีเส้นผมของคนไข้มีปริมาณไม่เพียงพอในการนำมาใช้ปลูก หรือเส้นผมของคนไข้คุณภาพไม่ดีไม่สามารถนำมาใช้ปลูกได้ จึงต้องมองหาเส้นผมจากที่อื่นที่จะนำมาชดเชยในส่วนนี้

แม้ในทางทฤษฎีอาจดูมีความเป็นไปได้ แต่ในทางปฏิบัติแล้วนั้นไม่สามารถทำได้ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะรับรู้และปกป้องทันที เมื่อมีเนื้อเยื่อและเส้นผมหรือสิ่งแปลกปลอมเข้ามา ภูมิคุ้มกันจะทำลายทำให้รากผมที่ปลูกถ่ายจะหลุดร่วงโดยที่ไม่มีโอกาสงอกขึ้นมาได้ เป็นกลไกป้องกันโดยธรรมชาติ ต่อให้เป็นคนในครอบครัวที่มีสีผมและโครงสร้างของเส้นผมคล้ายกันมาก หรือแม้กระทั่งฝาแฝดก็ไม่สามารถใช้ทดแทนกันได้ในเรื่องนี้

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ


DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)
.
โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่
Tel : 02 619 0351

วิตามินที่ดีที่สุดที่ควรทานหลังการปลูกผม มีอะไรบ้าง ?

การดูแลตนเองหลังการปลูกผมไม่ใช่เพียงแค่นอนหลับพักผ่อนเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงเรื่องของการรับประทานอาหาร เพราะอาหารที่มีสารอาหารต่ำสามารถขัดขวางการเจริญเติบโตของเส้นผมได้ทำให้เส้นผมเติบโตช้ากว่าที่ควร ดังนั้นการทานอาหารที่มีปรโยชน์โดยเฉพาะ วิตามินจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะ วิตามิสามารถส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมหลังการปลูกได้

วิตามินและแร่ธาตุที่เหมาะสมสำหรับทานหลังการปลูกเพื่อช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม ประกอบไปด้วย

วิตามินเอ : ช่วยให้เส้นผมมีความแข็งแรง โดยเฉพาะการหลั่งสารซีบัมซึ่งเป็นสารน้ำมันที่ผลิตโดยต่อมไขมันเพื่อช่วยในการป้องกันไม่ให้เส้นผมมีความเปราะบางมากจนเกินไป

วิตามินบีรวม : วิตามินบีรวมมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและโครงสร้างของเส้นผมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ วิตามินบี 7 ที่สามารถช่วยในการป้องกันผมร่วงและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมได้ หรือ วิตามินบี 12 ที่ช่วยส่งสารอาหารและออกซิเจนเพื่อไปบำรุงให้แผลบริเวณที่ผ่าตัดสามารถฟื้นตัวได้เร็ว

วิตามินซี : วิตามินซีเป็นหนึ่งในสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังที่สุดของร่างกาย โดยวิตามินซียังสามารถเร่งการสมานของแผลหลังผ่าตัดบนหนังศีรษะได้ เหมือนกับการเย็บแผลให้กลับมาเหมือนเดิมนั่นเอง

วิตามินดี : เพราะถ้าหากขาดวิตามินดีในร่างกายไปอาจทำให้ผมร่วงหรือผมงอกช้าได้ เนื่องจากวิตามินดีมีส่วนร่วมในการกระตุ้นรูขุมขนใหม่และเก่าให้เติบโต

วิตามินอี : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยมและยังสามารถปกป้องร่างกายจากความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันและการทำงานของอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสิ่งที่ร่างกายต้องการโดยเฉพาะหลังการปลูกผม

อาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี : สังกะสีเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายในการสร้าง DNA สร้างเซลล์และสร้างโปรตีน นอกจากนี้ยังช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันและความสมบูรณ์ของผิวหนัง หากร่างกายขาดสังกะสี อาจมีส่วนทำให้ผมร่วงได้

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ


DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)
.
โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่
Tel : 02 619 0351

ยารักษาผมร่วง VS การปลูกผม แตกต่างกันอย่างไร ?

ความแตกต่างระหว่าง “การทานยารักษาผมร่วงและการปลูกผมถาวร” นับว่ามีความแตกต่างเป็นอย่างมาก ซึ่งหลายคนอาจมองว่าวิธีการทั้งสองสามารถแก้ปัญหาผมร่วงได้เหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วทั้งสองวิธียังมีความแตกต่างในเรื่องของผลลัพธ์ของการรักษา

ปัจจุบันยารักษาผมร่วง มีการกล่าวอ้างเกินจริงมากมายในเรื่องของประสิทธิภาพการรักษา แต่ความเป็นจริงไม่มียาชนิดใด รวมถึงยา ฟินาสเตอไรด์ (Finasteride) และ ไมน็อกซิดิล (Minoxidil) ที่จะสามารถทำให้ผมที่หลุดร่วงไปแล้วกลับมางอกขึ้นใหม่ได้

โดยสิ่งที่ ฟินาสเตอไรด์ (Finasteride) และไมน็อกซิดิล (Minoxidil) ทำได้ดีคือ การช่วยชะลอและหยุดกระบวนการที่ทำให้เกิดผมร่วง ซึ่งการทานยาเหล่านี้อาจดูเหมือนช่วยทำให้เส้นผมกลับมางอกขึ้นใหม่แต่ความเป็นจริงยาทั้งสองชนิดนี้ช่วยเพียงแค่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมให้มีความแข็งแรง หนาขึ้น และมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นเพียงเท่านั้น ต่างจากผลลัพธ์ของการปลูกผมถาวร ที่สามารถทำให้เส้นผมที่หลุดร่วงไปแล้วไม่ว่าจะทั่วศีรษะหรือพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งบนศีรษะ ให้กลับมางอกขึ้นใหม่ได้ด้วยการผ่าตัดนั่นเอง

ถึงแม้ว่ายารักษาผมร่วงอาจช่วยชะลอการหลุดร่วงของเส้นผมได้ดี แต่สำหรับคนไข้ที่มีอาการหัวล้านอยู่แล้ว ยาต่างๆก็ไม่สามารถรักษาอาการผมร่วงให้หายขาดไปได้ เพราะฉะนั้นการทานยารักษาผมร่วงให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คือการทานยาหลังจากเข้ารับการผ่าตัดปลูกผมมาแล้ว เพื่อช่วยรักษาผมที่มีอยู่ควบคู่ไปกับผมที่ปลูกใหม่ให้สามารถเติบโตควบคู่ไปด้วยกันได้นั่นเอง

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ


DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)
.
โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่
Tel : 02 619 0351

การรักษาด้วย PRP ไม่เหมาะสำหรับคนอายุน้อย เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ?

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ PRP ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือข้อสงสัยที่ว่า PRP เป็นการรักษาที่จำกัดในเรื่องของอายุหรือเปล่า ? หรือ อายุยังน้อยอยู่สามารถฉีด PRP ได้หรือไม่ ? โดยผู้คนจำนวนมากยังมีความเข้าใจผิดคิดว่ามีเพียง ‘ผู้สูงอายุ’ เท่านั้นที่ได้รับการบำบัดด้วย PRP เพราะเป็นวิธีรักษาที่ค่อนข้างสะดวก และรวดเร็วที่ไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดปลูกผมเหมือนกับคนในช่วงวัยอื่นๆ

ในทางเทคนิคการฉีด PRP เป็นการรักษาที่ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของอายุ เนื่องจาก PRP เปรียบเสมือนตัวเลือกอันดับแรกๆของผู้ที่มีอาการผมร่วง ผมบางที่ยังไม่ถึงขั้นรุนแรงหรือวิกฤต โดยการฉีด PRP จะช่วยฟื้นฟูให้เส้นผมกลับมาเจริญเติบโตปกคลุมตรงบริเวณศีรษะอีกครั้งนึง ซึ่งผู้ที่มีอายุอยู่ในช่วง 24 – 45 ปีมีแนวโน้มที่ผมจะหลุดร่วงจากพันธุกรรมและผมบางมากที่สุด นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม PRP จึงเป็นวิธีรักษาที่เหมาะสมสำหรับคนทุกช่วงอายุ แต่การจะให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและดีสุด ควรทำการฉีดอย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่าสามเดือนขึ้นไป

แต่ PRP ก็ไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมสำหรับทุกคนเช่นกัน บางคนอาจทำการรักษาไปแล้ว แต่ผลลัพธ์กลับไม่สามารถช่วนฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาได้มากเท่าที่ควร การผ่าตัดปลูกผมจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในลำดับถัดมาที่คุณควรนึกถึง

สุดท้ายนี้แม้ว่า PRP จะไม่จำกัดการรักษาในเรื่องของอายุก็ตาม แต่ทางคลินิกขอแนะนำว่าคนไข้ที่เหมาะสมสำหรับการฉีด PRP ควรมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจะดีกว่า

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ


DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)
.
โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่
Tel : 02 619 0351

ปลูกหนวดเจ็บไหม ขั้นตอนเป็นอย่างไร ?

อาจมีคำถามที่สงสัยเกี่ยวกับการปลูกหนวดและเคราบนใบหน้า ว่าเป็นการปลูกที่มีความแตกต่างจากการปลูกผมทั่วไปหรือไม่และขั้นตอนของการปลูกจะเจ็บกว่าการปลูกผมไหมเพราะบริเวณที่ปลูกคือบนใบหน้าที่มีผิวสัมผัสที่เปราะบางมาก เลยอาจจะกังวลในส่วนนี้

การปลูกหนวดเจ็บไหม คำตอบคืออาจรู้สึกเจ็บตอนฉีดยาชาเท่านั้น คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บปวดระหว่างการทำหัตถการแน่นอน

เรื่องขั้นตอนการปลูกหนวดนั้นไม่แตกต่างจากปลูกผมเลย โดยการปลูกหนวดและเคราสามารถทำได้ โดยใช้เทคนิคของการปลูกผมแบบ FUE หรือ FUT เลย ซึ่งศัลยแพทย์จะพิจารณาเทคนิคที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละคนให้

สำหรับใครที่มีสนใจปลูกหนวดสามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ


DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)

.

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่

Tel : 02 619 0351

ก่อนทำการฉีด PRP ควรเตรียมตัวอย่างไรดี?

การฉีด PRP (Platelet Rich Plasma) เป็นการช่วยรักษาปัญหาผมบาง ผมร่วง ด้วยวิธีการสกัดเลือดของผู้ป่วยนำมาฉีดบริเวณหนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นเซลล์รากผมที่เคยหยุดทำงานให้กลับมาสร้างผมขึ้นใหม่อีกครั้ง ซึ่งขั้นตอนก่อนได้รับการฉีดยังมีขั้นตอนของการเก็บเลือด โดยมีขั้นตอนปฏิบัติดังนี้

1. วันก่อนมาทำ PRP ให้นอนพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง,

2. ในวันทำ PRP ดื่มน้ำสะอาด 1.5 – 2 ลิตร เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดมีความหนืด

3. งดการสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์ 4 สัปดาห์ก่อนการทำ PRP

4. งดรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง

ขั้นตอนเหล่านี้เป็นข้อปฏิบัติพื้นฐานที่ช่วยให้แพทย์สามารถเก็บเลือดที่จะใช้ในการฉีดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเจาะจากเส้นเลือดบริเวณข้อพับแขน ปริมาณ 15 – 30 CC ใครที่กำลังรักษาปัญหาอาการ ผม ร่วง ผมบาง ด้วยวิธีฉีด PRP สามารถเตรียมตัวเบื้องต้นตามนี้ได้เลยค่ะ

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ

————————————–

DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)

.

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่

Tel : 02 619 0351