ยารักษาผมร่วง VS การปลูกผม แตกต่างกันอย่างไร ?

ความแตกต่างระหว่าง “การทานยารักษาผมร่วงและการปลูกผมถาวร” นับว่ามีความแตกต่างเป็นอย่างมาก ซึ่งหลายคนอาจมองว่าวิธีการทั้งสองสามารถแก้ปัญหาผมร่วงได้เหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วทั้งสองวิธียังมีความแตกต่างในเรื่องของผลลัพธ์ของการรักษา

ปัจจุบันยารักษาผมร่วง มีการกล่าวอ้างเกินจริงมากมายในเรื่องของประสิทธิภาพการรักษา แต่ความเป็นจริงไม่มียาชนิดใด รวมถึงยา ฟินาสเตอไรด์ (Finasteride) และ ไมน็อกซิดิล (Minoxidil) ที่จะสามารถทำให้ผมที่หลุดร่วงไปแล้วกลับมางอกขึ้นใหม่ได้

โดยสิ่งที่ ฟินาสเตอไรด์ (Finasteride) และไมน็อกซิดิล (Minoxidil) ทำได้ดีคือ การช่วยชะลอและหยุดกระบวนการที่ทำให้เกิดผมร่วง ซึ่งการทานยาเหล่านี้อาจดูเหมือนช่วยทำให้เส้นผมกลับมางอกขึ้นใหม่แต่ความเป็นจริงยาทั้งสองชนิดนี้ช่วยเพียงแค่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมให้มีความแข็งแรง หนาขึ้น และมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นเพียงเท่านั้น ต่างจากผลลัพธ์ของการปลูกผมถาวร ที่สามารถทำให้เส้นผมที่หลุดร่วงไปแล้วไม่ว่าจะทั่วศีรษะหรือพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งบนศีรษะ ให้กลับมางอกขึ้นใหม่ได้ด้วยการผ่าตัดนั่นเอง

ถึงแม้ว่ายารักษาผมร่วงอาจช่วยชะลอการหลุดร่วงของเส้นผมได้ดี แต่สำหรับคนไข้ที่มีอาการหัวล้านอยู่แล้ว ยาต่างๆก็ไม่สามารถรักษาอาการผมร่วงให้หายขาดไปได้ เพราะฉะนั้นการทานยารักษาผมร่วงให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คือการทานยาหลังจากเข้ารับการผ่าตัดปลูกผมมาแล้ว เพื่อช่วยรักษาผมที่มีอยู่ควบคู่ไปกับผมที่ปลูกใหม่ให้สามารถเติบโตควบคู่ไปด้วยกันได้นั่นเอง

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ


DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)
.
โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่
Tel : 02 619 0351

การรักษาด้วย PRP ไม่เหมาะสำหรับคนอายุน้อย เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ?

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ PRP ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือข้อสงสัยที่ว่า PRP เป็นการรักษาที่จำกัดในเรื่องของอายุหรือเปล่า ? หรือ อายุยังน้อยอยู่สามารถฉีด PRP ได้หรือไม่ ? โดยผู้คนจำนวนมากยังมีความเข้าใจผิดคิดว่ามีเพียง ‘ผู้สูงอายุ’ เท่านั้นที่ได้รับการบำบัดด้วย PRP เพราะเป็นวิธีรักษาที่ค่อนข้างสะดวก และรวดเร็วที่ไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดปลูกผมเหมือนกับคนในช่วงวัยอื่นๆ

ในทางเทคนิคการฉีด PRP เป็นการรักษาที่ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของอายุ เนื่องจาก PRP เปรียบเสมือนตัวเลือกอันดับแรกๆของผู้ที่มีอาการผมร่วง ผมบางที่ยังไม่ถึงขั้นรุนแรงหรือวิกฤต โดยการฉีด PRP จะช่วยฟื้นฟูให้เส้นผมกลับมาเจริญเติบโตปกคลุมตรงบริเวณศีรษะอีกครั้งนึง ซึ่งผู้ที่มีอายุอยู่ในช่วง 24 – 45 ปีมีแนวโน้มที่ผมจะหลุดร่วงจากพันธุกรรมและผมบางมากที่สุด นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม PRP จึงเป็นวิธีรักษาที่เหมาะสมสำหรับคนทุกช่วงอายุ แต่การจะให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและดีสุด ควรทำการฉีดอย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่าสามเดือนขึ้นไป

แต่ PRP ก็ไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมสำหรับทุกคนเช่นกัน บางคนอาจทำการรักษาไปแล้ว แต่ผลลัพธ์กลับไม่สามารถช่วนฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาได้มากเท่าที่ควร การผ่าตัดปลูกผมจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในลำดับถัดมาที่คุณควรนึกถึง

สุดท้ายนี้แม้ว่า PRP จะไม่จำกัดการรักษาในเรื่องของอายุก็ตาม แต่ทางคลินิกขอแนะนำว่าคนไข้ที่เหมาะสมสำหรับการฉีด PRP ควรมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจะดีกว่า

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ


DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)
.
โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่
Tel : 02 619 0351

ปลูกหนวดเครา ให้ผลลัพธ์ดูเป็นเป็นธรรมชาติด้วยเทคนิค FUT และ FUE

การปลูกหนวดและเครามีความต้องการเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

วิธีปลูกผมแบบ FUT และ FUE ไม่ใช่แค่เทคนิคที่ใช้สำหรับปลูกผมเท่านั้น ยังมีการนำมาใช้ในการปลูกหนวดเครา วิธีและขั้นตอนยังคงเหมือนกับการปลูกผม แตกต่างกันเพียงแค่บริเวณที่ปลูกจากศีรษะเป็นตรงบริเวณใบหน้า

ข้อดีของการปลูกหนวดเคราถาวร

คือ สามารถออกแบบหนวดเคราที่ต้องการปลูกให้เข้ากับใบหน้าของเราและดูเป็นธรรมชาติได้อีกด้วย รวมไปถึงเรื่องของการปลูกเพื่อปกปิดรอยสิวหรือแผลเป็นบนใบหน้าได้ อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพของคุณผู้ชายให้ดูดียิ่งขึ้น

สำหรับใครที่สนใจจะปลูกหนวด/เครา สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ


DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)

.

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่

Tel : 02 619 0351

ปลูกหนวดเจ็บไหม ขั้นตอนเป็นอย่างไร ?

อาจมีคำถามที่สงสัยเกี่ยวกับการปลูกหนวดและเคราบนใบหน้า ว่าเป็นการปลูกที่มีความแตกต่างจากการปลูกผมทั่วไปหรือไม่และขั้นตอนของการปลูกจะเจ็บกว่าการปลูกผมไหมเพราะบริเวณที่ปลูกคือบนใบหน้าที่มีผิวสัมผัสที่เปราะบางมาก เลยอาจจะกังวลในส่วนนี้

การปลูกหนวดเจ็บไหม คำตอบคืออาจรู้สึกเจ็บตอนฉีดยาชาเท่านั้น คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บปวดระหว่างการทำหัตถการแน่นอน

เรื่องขั้นตอนการปลูกหนวดนั้นไม่แตกต่างจากปลูกผมเลย โดยการปลูกหนวดและเคราสามารถทำได้ โดยใช้เทคนิคของการปลูกผมแบบ FUE หรือ FUT เลย ซึ่งศัลยแพทย์จะพิจารณาเทคนิคที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละคนให้

สำหรับใครที่มีสนใจปลูกหนวดสามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ


DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)

.

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่

Tel : 02 619 0351

ผลลัพธ์ของ PRP เป็นแบบใด ?

หลายคนอาจจะทราบกันมาเบื้องต้นกันบ้างแล้วว่าการฉีด PRP (Platelet Rich Plasma) เป็นการสกัดเลือดของผู้ป่วยนำมาฉีดบริเวณหนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นเซลล์รากผมที่เคยหยุดทำงานให้กลับมาสร้างผมขึ้นใหม่อีกครั้ง แต่ก็ยังไม่เคยเห็นผลลัพธ์ว่ามันจะออกมาเป็นแบบใด

ซึ่งผลลัพธ์จากการฉีด PRP คือ เกิดการกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือด และการแบ่งตัวของเซลล์ ทำให้มีเส้นเลือดไปเลี้ยงเซลล์มากขึ้นและถูกกระตุ้นให้มีการสร้างเส้นผมมากขึ้น ทำให้เส้นผมงอกมากขึ้น ผมมีความหนาขึ้น โดยจะต้องฉีดเดือนละ 1 ครั้ง อย่างน้อย 3 ครั้งขึ้นไป เพื่อดูการตอบสนองในช่วงแรก หากพบว่า ผลลัพธ์ตอบสนองดี สามารถปรับมาเป็นการฉีดต่อเนื่องทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี

โดยผลลัพธ์ของ PRP เป็นผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่จากงานวิจัย ถ้าได้ฉีด PRP เดือนละครั้งอย่างน้อย 3 เดือนติดต่อกัน สามารถลดอัตราการร่วงของเส้นผม ความหนาแน่นของเส้นผมเพิ่มขึ้นและขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของผมใหญ่ขึ้นได้

สำหรับใครที่มีสนใจ PRP สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ

————————————–

DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)

.

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่

Tel : 02 619 0351

ก่อนทำการฉีด PRP ควรเตรียมตัวอย่างไรดี?

การฉีด PRP (Platelet Rich Plasma) เป็นการช่วยรักษาปัญหาผมบาง ผมร่วง ด้วยวิธีการสกัดเลือดของผู้ป่วยนำมาฉีดบริเวณหนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นเซลล์รากผมที่เคยหยุดทำงานให้กลับมาสร้างผมขึ้นใหม่อีกครั้ง ซึ่งขั้นตอนก่อนได้รับการฉีดยังมีขั้นตอนของการเก็บเลือด โดยมีขั้นตอนปฏิบัติดังนี้

1. วันก่อนมาทำ PRP ให้นอนพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง,

2. ในวันทำ PRP ดื่มน้ำสะอาด 1.5 – 2 ลิตร เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดมีความหนืด

3. งดการสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์ 4 สัปดาห์ก่อนการทำ PRP

4. งดรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง

ขั้นตอนเหล่านี้เป็นข้อปฏิบัติพื้นฐานที่ช่วยให้แพทย์สามารถเก็บเลือดที่จะใช้ในการฉีดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเจาะจากเส้นเลือดบริเวณข้อพับแขน ปริมาณ 15 – 30 CC ใครที่กำลังรักษาปัญหาอาการ ผม ร่วง ผมบาง ด้วยวิธีฉีด PRP สามารถเตรียมตัวเบื้องต้นตามนี้ได้เลยค่ะ

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ

————————————–

DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)

.

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่

Tel : 02 619 0351

ผ่าตัดปลูกผมเทคนิค FUT แผลเล็กจนมองไม่เห็น

การปลูกผมแบบ FUT หรือ Follicular Unit Transplantation เป็นการผ่าตัดเอาชิ้นหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยหรือด้านข้างของศีรษะซึ่งมีรากผมที่แข็งแรงมาปลูกบริเวณที่มีปัญหา เป็นการปลูกผมแบบผ่าตัดที่ไม่ต้องใช้ยาสลบ

โดยเทคนิคเฉพาะที่ DHT ที่ใช้ในการปลูกผม FUT คือ open technique ซึ่งเป็นการผ่าตัดหนังศีรษะบริเวณด้านหลัง โดยใช้เทคนิคเฉพาะ แพทย์ผู้ผ่าตัดจะสามารถเห็นรากผมระหว่างผ่าตัดได้อย่างชัดเจน ทำให้ลดการสูญเสียของกราฟผมระหว่างผ่าตัดลง จึงได้กราฟผมที่แข็งแรงและมีคุณภาพ ไม่จำเป็นต้องโกนศีรษะ หลังปลูกผมสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติได้รวดเร็ว

ข้อดีของเทคนิค FUT 

– แผลมีขนาดเล็กมาก ด้วยเทคนิค Trichophytic Closure 

– มองเห็นได้น้อยที่สุดหรือมองไม่เห็นเลย (หากไว้ผมยาวเกิน 1.5 ซม.)

– หลังปลูกผม FUT 1-2 วัน สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ  

“ขนาดของแผลขึ้นกับลักษณะของหนังศีรษะในคนไข้แต่ละคน”

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ

————————————–

DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)

.

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่

Tel : 02 619 0351

4 ขั้นตอน รักษาแบบ PRP (Platelet-Rich Plasma) มีอะไรบ้าง?

PRP (Platelet Rich Plasma) เป็นอีกหนึ่งเทคนิคการช่วยรักษาปัญหาผมบาง ผมร่วง ด้วยวิธีการสกัดเลือดของผู้ป่วยนำมาฉีดบริเวณหนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นเซลล์รากผมที่เคยหยุดทำงานให้กลับมาสร้างผมขึ้นใหม่อีกครั้ง

ขั้นตอนการฉีด PRP

1. แพทย์จะทำการเก็บเลือดของผู้ป่วยที่จะนำมาฉีดประมาณ 15 – 30 сс

2. เลือดที่เก็บไว้จะถูกวางไว้ในเครื่องหมุนเหวี่ยงสาร (Centrifuge) เพื่อแยกเกล็ดเลือดออกเป็นรูปแบบของ PRP ที่จะนำมาใช้ในการฉีด

3. ทำความสะอาดบริเวณหนังศีรษะ

4. ฉีดยาชาบริเวณส่วนที่ต้องการฉีด

5. ทำการฉีด PRP ลงบริเวณหนังศีรษะที่ต้องการกระตุ้นเซลล์รากผม

นอกจากนี้ยังมีขั้นตอนการปฏิบัติตัวหลังฉีด PRP ซึ่งควรที่จะงดกิจกรรมการออกกำลังกายหรืองดการดื่มแอลกอฮอล์ไปก่อน ห้ามสระผมและโดนน้ำประมาณ 1 วัน หลังทำ PRP

ในส่วนของผลลัพธ์ของการทำ PRP จะเกิดการกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือด และการแบ่งตัวของเซลล์ ทำให้มีเส้นเลือดไปเลี้ยงเซลล์มากขึ้นและถูกกระตุ้นให้มีการสร้างเส้นผมมากขึ้น ทำให้เส้นผมงอกมากขึ้น ผมมีความหนาขึ้น โดยจะต้องฉีดเดือนละ 1 ครั้ง อย่างน้อย 3 ครั้งขึ้นไป เพื่อดูการตอบสนองในช่วงแรก หากพบว่า ผลลัพธ์ตอบสนองดี สามารถปรับมาเป็นการฉีดต่อเนื่องทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี

ราคาการทำ PRP ที่ DHT Hair Clinic 15,000.- /ครั้ง

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ

————————————–

DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)

.

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่

Tel : 02 619 0351

ทำความรู้จัก PRP เทคนิคการปลูกผม โดยเกล็ดเลือดตัวเอง ปลอดภัยไร้แผล 

ปัจจุบันการผ่าตัดปลูกผมถาวรนับว่าประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะการปลูกถ่ายเส้นผมด้วยเทคนิคที่รู้จักกันดีอย่าง FUT และ FUE ที่มีประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ แต่การปลูกผมในปัจจุบันยังมีอีกหนึ่งนวัตกรรมในการช่วยรักษาเส้นผม ที่ประสบความสำเร็จมากอีกหนึ่งวิธีนั่นคือ การฉีด PRP (Platelet Rich Plasma)

PRP (Platelet Rich Plasma) คืออะไร ?

PRP คือการสกัดเลือดของผู้ป่วยนำมาฉีดบริเวณหนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นเซลล์รากผมที่เคยหยุดทำงานให้กลับมาสร้างผมขึ้นใหม่อีกครั้ง 

โดยขั้นตอนการทำ PRP คือ แพทย์จะดูดเลือดจากผู้ป่วยจากนั้นจะนำเลือดวางไว้ใน เครื่องหมุนเหวี่ยงสาร (Centrifuge) เพื่อแยกออกเฉพาะเกล็ดเลือด (Platelet) ออกมาในรูปแบบของ PRP เกล็ดเลือดที่ได้จะมีความเข้มข้นสูงกว่าระดับปกติ 3 – 4 เท่า ซึ่งภายในประกอบไปด้วย Growth factor (GF) ซึ่งทำหน้าที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตและช่วยฟื้นฟูเซลล์ต่างๆในร่างกาย จากนั้น PRP จะถูกฉีดบริเวณที่มีอาการ ผมร่วง ผมบาง เพื่อฟื้นฟูการทำงานของเซลล์รากผมอีกครั้ง ทำให้มีการสร้างเส้นผมมากขึ้น และเส้นผมหนาขึ้น 

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ

————————————–

DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)

.

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่

Tel : 02 619 0351

สภาพอากาศที่ร้อนสูง สามารถทำให้ผมร่วงได้หรือไม่

สาเหตุที่ทำให้เส้นผมสามารถหลุดร่วงได้นั้น นับว่ามีหลายปัจจัยด้วยกันส่วนใหญ่เกิดขึ้นจาก พันธุกรรม หรืออาจเกิดจากความเครียด รวมไปถึงการเลือกรับประทานอาหารและการใช้ชีวิตต่างๆ แต่รู้หรือไม่ว่าปัจจัยอีกหนึ่งอย่างที่ให้เส้นผมสามารถหลุดร่วงได้ก็คือ “สภาพอากาศ” โดยเฉพาะสภาพอากาศในช่วงนี้ของเมืองไทยที่มีอุณหภูมิที่ร้อนสูงมากกว่าปกติ แล้วปัจจัยนี้จะส่งผลอย่างไร ?

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าวัฏจักรธรรมชาติของเส้นผมมักมีการหลุดร่วงไปตามฤดูกาลอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติไม่มีความน่ากังวลใจแต่อย่างใด โดยเส้นผมมักจะหลุดร่วงน้อยในฤดูหนาวและจะหลุดร่วงมากในฤดูร้อน แต่ในสภาพอากาศที่มีความร้อนสูงในเมืองไทยเช่นนี้ ทำให้วัฏจักรการหลุดร่วงส่งผลได้มากกว่าเดิม เนื่องจากความร้อนที่มากเกินไปทำให้เส้นผมอยู่ในระยะพักตัวหรือระยะเทโลเจนนานกว่าปกติ มีโอกาสที่จะหลุดร่วงเร็วขึ้น แม้ว่าการสูญเสียเส้นผม 100 เส้นต่อวันในฤดูร้อนจะเป็นเรื่องปกติ แต่ในสภาวะอากาศที่ยังร้อนสูงเช่นนี้จะทำให้เส้นผมหลุดร่วงมากขึ้นกว่าเดิมเพราะระยะเทโลเจนที่ยืดเยื้อ

ซึ่งวิธีป้องกันและดูแลเส้นผมไม่ให้หลุดร่วงในสภาพอากาศที่ร้อนสูงสามารถทำได้ เช่น

  1. ดูแลหนังศีรษะให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ
  2. สระผมสัปดาห์ละ 3 ครั้งด้วยผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากซัลเฟต ปราศจากพาราเบน
  3. เป่าผมให้แห้งก่อนมัด
  4. อย่าปล่อยให้หนังศีรษะเจอฝุ่นละอองและเหงื่อมากเกินไป

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ


DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS)
.
โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่
Tel : 02 619 0351