เพราะเหตุใดการฉีด PRP ต่อเนื่องเดือนละครั้งจึงให้ผลลัพธ์ดีสุด ?

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าการรักษาปัญหาผมร่วงด้วยการทำ PRP อาจเป็นการรักษาด้วยการทำเพียงหนึ่งครั้งและจบการรักษาเหมือนกับการเข้ารับผ่าตัดปลูกผมและรอติดตามผลลัพธ์หลังการปลูก

แม้ว่าการทำ PRP จะช่วยฟื้นฟูและอาจเพิ่มความหนาแน่นขนาดของเส้นผม แต่การรักษาด้วย PRP ไม่ใช่วิธีที่จะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดภายในครั้งเดียวได้

จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการทำ ” PRP ต่อเนื่องเดือนละครั้งจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด” เพราะการทำ PRP ไม่ใช่การกำจัดปัญหาได้ถาวรนั่นเอง คนที่มีปัญหาผมร่วงและฟื้นฟูด้วยการทำ PRP เมื่อผมเริ่มกลับมาปกคลุมศีรษะอีกครั้ง แต่ขาดการทำ PRP แบบต่อเนื่องปัญหาผมร่วง ผมบางที่เคยเป็นก็อาจจะกลับมาอีกได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย ซึ่งการรักษาด้วย PRP ควรฉีดตาม Protocol เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจึงจะดีกว่า

สำหรับใครที่สนใจการทำPRP สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ 

————————————– 

DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS) 

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่  

Tel : 02 619 0351 

Inbox : https://m.me/DHTclinicbangkok 

Email : pathomvanich.d@gmail.com 

Website : www.dhthairclinic.com 

Instagram : @dhthairclinic 

ปลูกผมแบบ FUE คืออะไร ? ทำไมเทคนิคนี้ถึงนิยมใช้สำหรับการปลูกผม

ในปัจจุบันการปลูกผมถือเป็นทางเลือก และเป็นวิธีแก้ปัญหาสำหรับใครหลายๆคน ที่ได้รับผลกระทบจากการหลุดร่วงของเส้นผมไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การปลูกผมก็ยังคงมีตัวเลือกอีกหลายวิธีที่สามารถช่วยรักษาอาการผมร่วง ผมบาง หรือแม้กระทั่งศีรษะล้านของคุณได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเทคนิคการปลูกผมที่ชื่อว่า “FUE (Follicular Unit Excision)” 

การปลูกผมแบบ FUE คืออะไร ?  

การปลูกผมแบบ FUE หรือ Follicular Unit Excision เป็นวิธีการย้ายรากผมโดยไม่ต้องตัดหนังศีรษะ โดยจะใช้เครื่องมือขนาด 0.8 – 1.0 มม. เจาะรูเส้นผมทีละรู ลงลึกถึงเซลล์รากผม จากนั้นใช้คีมปลายแหลมดึงเซลล์รากผมออกมาจากหนังศีรษะ, หลีกเลี่ยงการมีแผลเป็นแนวยาว, สามารถย้ายเส้นผมจากบริเวณศีรษะ หนวด ขนตามตัว มาปลูกผมบริเวณที่มีปัญหาได้ และเจ็บน้อยกว่า แผลหายได้เร็วกว่าการผ่าตัดปลูกผมแบบ FUT (Follicular Unit Transplantation) 

ทำไม FUE ถึงเป็นเทคนิคที่ถูกนำมาใช้ในการปลูกมากที่สุด ? 

เหตุผลที่ FUE เป็นเทคนิคที่ถูกหยิบนำมาใช้มากที่สุด คือ ขั้นตอนของ FUE เป็นวิธีการเจาะเอารากผมจากบริเวณท้ายทอย และด้านข้างของศีรษะนำมาใช้ในการปลูก ซึ่งเทคนิคนี้จะมีเพียงแค่แผลเป็นจุดเล็กๆ กระจายทั่วๆรอบศีรษะ และไม่มีรอยเย็บ หรือรอยแผลเป็นที่เป็นเส้นตรงทิ้งไว้ให้เห็นเด่นชัด เป็นรอยแผลเป็นที่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่าได้ เป็นเทคนิคที่นิยมมากโดยเฉพาะในหมู่วัยกลางคนทั้งผู้ชาย และผู้หญิง ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางเฉพาะจุด นอกจากนี้ยังเป็นขั้นตอนที่บริเวณพื้นที่ที่ปลูกสามารถฟื้นตัวได้รวดเร็วที่สุดอีกด้วย ซึ่งแตกต่างจาก FUT ที่เป็นเทคนิคการผ่าตัดที่ใช้พื้นที่ปลูกบริเวณกว้าง ทำให้การฟื้นตัวใช้เวลานานกว่า ที่สำคัญการปลูกผมด้วย FUE ไม่เจ็บอย่างที่คิด ด้วยข้อดี และตอบโจทย์ต่อความต้องการของผู้คนในปัจจุบัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมผู้คนถึงมองหา FUE เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆก่อนทุกครั้งเสมอเมื่อมีโอกาสเลือก  

ท้ายที่สุดแล้วการปลูกผมไม่ว่าจะเป็นเทคนิคใดก็ตาม ทั้ง FUE หรือ FUT จะประสบความสำเร็จ หรือได้ผลลัพธ์ตามที่คุณต้องการหรือไม่นั้น ตัวแปรที่สำคัญที่สุดก็ยังคงเป็น ประสบการณ์ และความชำนาญในการปลูกผมของคุณหมอที่คุณเลือก หากเลือกผิดการแก้ไขก็เป็นเรื่องยากเช่นกัน เพราะฉะนั้นการตัดสินใจเลือกคุณหมอก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่ควรพิจาราณาให้ดี 

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ 

————————————– 

DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS) 

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่  

Tel : 02 619 0351 

Inbox : https://m.me/DHTclinicbangkok 

Email : pathomvanich.d@gmail.com 

Website : www.dhthairclinic.com 

Instagram : @dhthairclinic 

 

การออกแบบคิ้วให้ดูเป็นธรรมชาติขึ้นอยู่กับปัจจัยใดบ้าง ?

ความต้องการสิ่งแรกของการปลูกคิ้วคงหนีไม่พ้นเรื่องการได้ผลลัพธ์ที่ดูเนียน สวยและมีความเป็นธรรมชาติ แต่รู้หรือไม่ว่าการออกแบบคิ้วและปลูกให้ได้ผลลัพธ์ดังกล่าวต้องออกแบบอย่างไร

การออกแบบคิ้วเพื่อปลูกให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เป็นขั้นตอนที่ใช้เทคนิคและประสบการณ์ที่สูงมากเข้าช่วย เนื่องจากการออกแบบให้สามารถดูเป็นธรรมชาติและเข้ากับของเดิมได้นั้น ต้องขึ้นอยู่กับ “การโค้งงอ” ของเส้นผมที่นำมาใช้ในการปลูก โดยแต่เส้นผมแต่ละเส้นก็มีการโค้งงอที่แตกต่างกันอยู่แล้วถ้าหากปลูกโดยไม่มีการเขียนคิ้วก่อนอาจดูมีความผิดธรรมชาติและทิศทางแก่คิ้วได้

โดยศัลยแพทย์ต้องวางส่วนโค้งงอของเส้นผมต่อหนึ่งเส้นให้มีทิศทางไปในแนวเดียวกัน เมื่อปลูกเสร็จเส้นผมที่ใช้ในการปลูกคิ้วก็จะดูเป็นธรรมชาติผสมกลมกลืนไปกับคิ้วดั่งเดิมของคนไข้นั่นเอง หรือจะเรียกอีกแบบว่า “การใช้กราฟผมเส้นเดียว” ก็ได้

สำหรับใครที่สนใจปลูกคิ้ว สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ 

————————————– 

DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS) 

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่  

Tel : 02 619 0351 

Inbox : https://m.me/DHTclinicbangkok 

Email : pathomvanich.d@gmail.com 

Website : www.dhthairclinic.com 

Instagram : @dhthairclinic 

การปลูกหนวดและเครา ใช้จำนวนเส้นผมในการปลูกกี่กราฟ ?

ส่วนใหญ่การปลูกหนวดและเครานั้นจะใช้เส้นผมนำมาใช้ในการปลูกเป็นหลัก ถ้าใครที่เคยศึกษาเรื่องของการปลูกผมมาแล้ว จะทราบกันดีว่าการนำเส้นผมมาใช้ปลูก ศัลยแพทย์ต้องทำการประเมินแล้วว่าคนไข้แต่ละคนนั้นมีปัญหาเส้นผมแบบใดและควรที่จะปลูกจำนวนกี่กราฟดี เช่นเดียวกับการปลูกหนวดและเครา ศัลยแพทย์ต้องทำการประเมินเหมือนกัน แล้วปกติการปลูกหนวดและเคราใช้เส้นผมนำมาปลูกโดยเฉลี่ยแล้วกี่กราฟ

แน่นอนว่าการปลูกผมใช้นั้นกราฟเยอะกว่าการปลูกหนวดและเครา แต่ก็ขึ้นอยู่กับระยะอาการผมบางของคนไข้ด้วยว่าถึงระยะไหนแล้ว

อันดับแรกต้องแยกก่อนว่าหนวดและเครานั้นใช้จำนวนกราฟในการปลูกแตกต่างกัน ในส่วนของ หนวดจะใช้อยู่ที่ประมาณ 500 กราฟ ส่วนของเครานั้นมีหลายประเภท เช่น

  • เคราข้างแก้มประมาณข้างละ 750 กราฟ
  • เคราแพะประมาณ 600 กราฟ

โดยการปลูกเคราจะใช้จำนวนกราฟมากกว่าการปลูกหนวด โดยจำนวนจะขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ต้องการปลูกนั่นเอง

สำหรับใครที่สนใจปลูกหนวด สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ 

————————————– 

DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS) 

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่  

Tel : 02 619 0351 

Inbox : https://m.me/DHTclinicbangkok 

Email : pathomvanich.d@gmail.com 

Website : www.dhthairclinic.com 

Instagram : @dhthairclinic 

รู้หรือไม่ ? เส้นผมไม่ได้มีไว้ใช้แค่สำหรับปลูกผมเพียงอย่างเดียว

คนส่วนใหญ่ที่ประสบปัญหาศีรษะล้าน คงทราบกันดีแล้วว่าการปลูกผมเป็นหนึ่งในวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดอีกหนึ่งวิธี แต่คุณรู้หรือไม่ว่าศีรษะของคุณไม่ใช่ที่เดียวบนร่างกายที่สามารถปลูกถ่ายเส้นผมได้ มาลองดูว่านอกจากเส้นผมที่ใช้ในการปลูกผมได้แล้วนั้นยังสามารถนำมาใช้ปลูกส่วนอื่นๆบนร่างกายส่วนใดได้บ้าง

ปลูกคิ้ว ก็สามารถปลูกได้เช่นกันโดยการนำเส้นผมบริเวณท้ายทอยมาปลูก ข้อควรระวังของการปลูกคิ้วคือ ต้องหมั่นเล็มคิ้วทุกสัปดาห์เพราะเส้นขนที่นำมาปลูกบนคิ้วจะยาวคล้ายกับเส้นผมเลย

หนวดและเครา เคราหรือหนวดสามารถเพิ่มบุคลิกและสร้างลักษณะที่โดดเด่นได้ ถ้าใครมีความต้องการปลูกตรงส่วนนี้สามารถเข้ารับการปลูกได้ โดยใช้เส้นผมในการปลูกหนวดหรือเคราได้เช่นกัน อีกทั้งยังได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติไม่ต่างจากการปลูกผม หรือคิ้ว

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ 

————————————– 

DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS) 

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่  

Tel : 02 619 0351 

Inbox : https://m.me/DHTclinicbangkok 

Email : pathomvanich.d@gmail.com 

Website : www.dhthairclinic.com 

Instagram : @dhthairclinic 

การปลูกคิ้ว ขั้นตอนและข้อควรระวังเป็นอย่างไร ?

การปลูกคิ้วนั้นมีขั้นตอนที่เหมือนกับการปลูกผมมาก โดยสามารถใช้เทคนิคแบบ FUT และ FUE ในการปลูกได้ ข้อแตกต่างของการปลูกคิ้วคือตรงบริเวณที่ปลูกจะเป็นบริเวณในส่วนของใบหน้า โดยเส้นผมที่นำมาใช้ปลูกคือเส้นผมบริเวณท้ายทอย ซึ่งหลังการปลูกคิ้วคนไข้ไม่ต้องพักฟื้นเพราะระยะเวลาพักฟื้นสำหรับการปลูกคิ้วค่อนข้างเร็ว

ถ้าปลูกโดยเทคนิค
FUT จะมีแผลที่ท้ายทอยเป็นเส้น
FUE จะเป็นจุดๆขาวๆ

สิ่งที่ต้องควรทำเพื่อดูแลหลังการปลูกคือ ต้องหมั่นเล็มคิ้วทุกสัปดาห์เพราะเส้นขนที่นำมาปลูกบนคิ้วจะยาวคล้ายกับเส้นผม

สำหรับใครที่สนใจปลูกคิ้ว สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ 

————————————– 

DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS) 

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่  

Tel : 02 619 0351 

Inbox : https://m.me/DHTclinicbangkok 

Email : pathomvanich.d@gmail.com 

Website : www.dhthairclinic.com 

Instagram : @dhthairclinic 

ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ ? จึงจะเห็นผลที่ชัดเจนหลังปลูกหนวดเครา

ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ ? จึงจะเห็นผลที่ชัดเจนหลังปลูกหนวดเครา

หลังจากปลูกหนวดเสร็จ ขนที่ปลูกจะเริ่มร่วง 15-30 วันหลังจากการผ่าตัด ซึ่งรูขุมขนจากนั้นหลังผ่าตัด 4 เดือน หนวดเริ่มงอกขึ้นมาอีกครั้ง และประมาณ 10 เดือนถึง 1 ปี จะเห็นหนวดและเคราขึ้นได้เต็มที่ประมาณ 90 %

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ 

————————————– 

DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS) 

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่  

Tel : 02 619 0351 

Inbox : https://m.me/DHTclinicbangkok 

Email : pathomvanich.d@gmail.com 

Website : www.dhthairclinic.com 

Instagram : @dhthairclinic 

ข้อดีของการปลูกผมแบบ FUE ฉบับ DHT Hair Clinic

การปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Excision) เป็นปลูกผมด้วยมีวิธีย้ายรากผมโดยไม่ต้องตัดหนังศีรษะแต่เป็นการใช้วิธีเจาะแทน โดยการใช้เครื่องมือขนาด 0.8-1.0 มม. เจาะเอารากผมจากบริเวณท้ายทอยและด้านข้างของศีรษะ ทำให้เกิดรอยแผลเป็นเล็กแต่จะกระจายไปทั่วแต่เมื่อผมงอกขึ้นมาใหม่สามารถกลบให้ดูเนียนและเป็นธรรมชาติได้ ซึ่งการปลูกด้วยวิธี FUE ยังมีข้อดีอีกหลายอย่าง อาทิเช่น

– ไม่มีการเย็บ มีแผลเป็นน้อยที่สุด

– ไม่มีอาการปวดหรือมีอาการปวดเพียงเล็กน้อย

– ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

– มีความละเอียดมากเพราะเป็นการย้ายรากผมทีละกราฟ

– สามารถใช้เส้นผม หนวด ขนตามตัว มาปลูกได้

– แผลหายได้เร็วกว่า

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ 

————————————– 

DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS) 

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่  

Tel : 02 619 0351 

Inbox : https://m.me/DHTclinicbangkok 

Email : pathomvanich.d@gmail.com 

Website : www.dhthairclinic.com 

Instagram : @dhthairclinic 

ผลลัพธ์การปลูกผมแบบ FUE กับ FUT แตกต่างกันมากไหม ?

การปลูกผมแบบ FUE และ FUT เป็นสองเทคนิคหลักในการปลูกผม ที่มักใช้เป็นประจำเพราะมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งทั้งสองแบบนั้นมีความแตกต่างกันในเรื่องของเทคนิคที่ใช้ในการปลูก

ในส่วนของผลลัพธ์ FUE และ FUT ไม่มีความแตกต่างกันมาก เพราะทั้งสองให้ผลลัพธ์ที่เหมือนกันคือผมถาวรและกลับมาดูเป็นธรรมชาติอีกครั้ง แต่การที่จะเลือกปลูกด้วยเทคนิคใดนั้น ขึ้นอยู่กับทักษะและประสบการณ์ของคุณหมอที่จะประเมินอาการในการเลือกวิธีรักษาซึ่งเป็นกุญแจสำคัญ

ความแตกต่างของ FUE และ FUT

FUE เป็นการเจาะเอารากผมจากบริเวณท้ายทอยและด้านข้างของศีรษะ ทำให้มีรอยแผลเป็นเกิดขึ้นเป็นจุดเล็กกระจายทั่วๆ ซึ่งอาจใช้เวลาผ่าตัดนานหากพื้นที่บริเวณที่ต้องการปลูกมีความกว้าง

FUT เป็นการผ่าตัดเอาชิ้นหนังศีรษะบริเวณท้ายทอย หรือด้านข้างศีรษะ ซึ่งได้รากผมจำนวนมากในการผ่าตัดหนึ่งครั้ง และใช้เวลาผ่าตัดน้อยกว่า

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ 

————————————– 

DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS) 

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่  

Tel : 02 619 0351 

Inbox : https://m.me/DHTclinicbangkok 

Email : pathomvanich.d@gmail.com 

Website : www.dhthairclinic.com 

Instagram : @dhthairclinic 

ต่างกันอย่างไร ระหว่าง FUE และ FUT ?

วิธีการปลูกแบบ FUE และ FUT สามารถใช้ได้ผลดีทั้งคู่ไม่มีเทคนิคใดที่ทำได้ทุกอย่างและได้ผลดี ทั้งสองวิธีมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป

FUE เป็นการเจาะเอารากผมจากบริเวณท้ายทอย และด้านข้างของศีรษะ โดยจะมีแผลเป็นจุดเล็ก ๆ กระจายทั่ว ๆ แต่หากพื้นที่บริเวณที่ต้องการปลูกมีบริเวณกว้าง ทำให้ต้องใช้ปริมาณรากผมจำนวนมาก อาจทำให้ผมบริเวณที่เจาะบางมากในการผ่าตัดปลูกผมในครั้งต่อไปอาจทำให้ยากขึ้น และใช้เวลาผ่าตัดนานกว่า

FUT เป็นการผ่าตัดเอาชิ้นหนังศีรษะบริเวณท้ายทอย หรือด้านข้างของศีรษะ จึงสามารถได้รากผมจำนวนมากในการผ่าตัดคราวเดียวกัน ใช้เวลาผ่าตัดน้อยกว่า *เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาศีรษะล้านมากๆ* แต่ข้อเสียคือ อาจมีรอยแผลยาวเป็นเส้น ถ้าตัดผมสั้นอาจเห็นรอยแผลได้

สำหรับใครที่มีปัญหาเส้นผม สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษาคุณหมอเพื่อทำการประเมิน และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลได้เลยนะคะ 

————————————– 

DHT Hair Clinic ปลูกผมโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ได้รับอเมริกันบอร์ด (American Board of Hair Restoration Surgery), Fellowship Training Program ของสมาคมศัลยกรรมปลูกผมนานาชาติ (International Society of Hair Restoration Surgery, ISHRS) 

โทรศัพท์นัดคิวปรึกษาได้ที่  

Tel : 02 619 0351 

Inbox : https://m.me/DHTclinicbangkok 

Email : pathomvanich.d@gmail.com 

Website : www.dhthairclinic.com 

Instagram : @dhthairclinic